วิธี ลบ ลิปสติก: 10 วิธี ลบรอย เปื้อน ยอดฮิต ที่มักจะเกิดขึ้นบนผนังบ้าน - My Home
เชื่อว่าสาวๆ หลายคนที่ชอบทาลิปสติกเนื้อแมทท์ ให้ได้ลุคปากอิ่มแบบสาวฝรั่ง จะรู้ซึ้งถึงความติดทนของลิปสติประเภทนี้ดีนะคะ บางคนถูจนปากเบินแล้ว ยังไม่หลุดเลยยย #เพลีย!
- วิธีลบลิปสติกแบบถาวรได้อย่างง่ายดาย (คุณได้รับคำเตือน)
- 5 วิธีเช็ดลิปสติกที่ติดแน่น ให้หลุดออกง่ายๆ แบบปากไม่พัง - id SKIN EXPERT
- กำจัดรอยลิปสติกออกจากพรม - wikiHow
วิธีลบลิปสติกแบบถาวรได้อย่างง่ายดาย (คุณได้รับคำเตือน)
Advertisement วันนี้มีสูตรทำลิปสติกใช้เอง มั่นใจได้ในความสะอาดและความปลอดภัย ใช้แล้วไม่ต้องกลัวปากดำด้วยนะคะ เพราะลิปสติกสูตรนี้ปลอดภัยไร้สารเคมีจ้า มีแค่ผลไม้กับผลไม้เท่านั้น สำหรับสูตรทำลิปสติกนี้มี 3 สูตรด้วยนะคะ ใช้ผลไม้ต่างกัน แต่ที่เหมือนกันก็คือ ผลไม้สีแดงค่ะ ที่ใช้สีแดง เพราะว่าทำเสร็จแล้วจะได้เห็นสีลิปสติกชัดๆ [ads] สูตร 1 ลิปสติกทับทิม ส่วนผสม 1. ทับทิม 1/4 ถ้วย 2. น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนชา วิธีทำ นำทับทิมมาแกะใช้แต่เม็ด แล้วคั้นเอาน้ำ กรอกให้ได้แค่น้ำนะคะ จากนั้นเติมน้ำมันมะพร้าวลงไป 1 ช้อนชา ผสมให้เข้ากัน เทใส่กระปุก ทิ้งไว้ให้สักครู่ให้ เก็บไว้ในตู้เย็นได้นาน 1 เดือน ภาพ: สูตร 2 ลิปสติกเบอรี่ 1. แบล็คเบอรี่ 5 ลูก + ราสเบอรี่ 5 ลูก นำแบล็คเบอรี่และราสเบอรี่ เข้าอบในไมโครเวฟ 30 วินาที แล้วคั้นเอาแต่น้ำ เติมน้ำมันมะพร้าวลงไป 1 ช้อนชา ผสมให้เข้ากัน เทใส่กระปุก ทิ้งไว้ให้สักครู่ให้ เก็บไว้ในตู้เย็นได้นาน 1 เดือน สูตร 3 ลิปสติกบีทรูท 1. บีทรูท 1 หัว นำบีทรูทมาปลอกเปลือกให้หมด หั่นเป็นฝอยๆ คั่นเอาแต่น้ำ เติมน้ำมันมะพร้าวลงไป 1 ช้อนชา ผสมให้เข้ากัน เทใส่กระปุก ทิ้งไว้ให้สักครู่ให้ เก็บไว้ในตู้เย็นได้นาน 1 เดือน ภาพ [ads=center] Tag ที่เกี่ยวข้อง
ถ้าคราบเปื้อนส่วนใหญ่ถูกกำจัดออกไป ให้ซักหรือล้างฟองน้ำหรือผ้าที่ใช้ แล้วใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดตัวเดิมเติมเข้าไปแล้วขจัดรอยเปื้อนอีก สักสองสามครั้งน่าจะพอสำหรับการกำจัดคราบลิปสติกได้แล้ว แต่ถ้าหากคุณไม่เห็นว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็ควรหยุดและเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์อื่นที่ทดแทนกันได้แทน 5 ซักผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและคราบที่ยังหลงเหลืออยู่ด้วยมือ.
5 วิธีเช็ดลิปสติกที่ติดแน่น ให้หลุดออกง่ายๆ แบบปากไม่พัง - id SKIN EXPERT
ผู้หญิงกับลิปสติกเป็นของคู่กั้น…คู่กัน และเชื่อว่าหลายคนมีลิปสติกมากกว่า 1 แท่งขึ้นไปด้วยซ้ำ แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่เลือกซื้อลิปสติกมาแล้วกลับมาถูกใจ เพราะตอนที่ซื้อลองลิปสติกกับท้องแขนสีก็สวยดี แต่พอทาลงบนปากจริงๆ กลับได้สีที่ไม่ถูกใจ ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะสีผิวกับสีปากไม่เหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นลองมาดู 3 วิธีเลือกสีลิปสติกให้โดนใจ กันดู เผื่อคราวหน้าเวลาไปเลือกซื้อจะได้สีที่ถูกใจไม่ต้องเอามากองทิ้งที่บ้านอีก 1.
อย่าเพิ่งโยนลงเครื่องซักผ้านะคะ เพราะเคล็ดลับที่สาวๆ หลายคนอาจไม่รู้คือ "ครีมโกนหนวด" ของคุณผู้ชายนี่แหละ ช่วยลบคราบรองพื้นได้ ( แต่ต้องเป็นรองพื้นสูตร Oil-Free เท่านั้นน้า) วิธีทำความสะอาดคือ แช่น้ำส่วนที่เป็นคราบให้ผ้าเปียกหมาดๆ แล้วบีบครีมโกนหนวดใส่มือเล็กน้อย แล้วละเลงลงไปตรงคราบได้เลย ถูเบาๆ ( ใช้แปรงสีฟันช่วยขัดก็ได้) แล้วค่อยซักเสื้อตามปกติ แต่ๆๆ! ถ้าวันนั้นใช้รองพื้นสูตรผสมน้ำมัน ทางรอดของเธอคือ "น้ำยาล้างจาน" ค่ะ เพราะคุณสมบัติของเขาคือขจัดคราบมันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะบนจานหรือบนเสื้อก็ใช้ได้ บีบน้ำยาใส่คราบ แล้วถูให้ทั่ว รับรองคราบรองพื้นจะหายวับไปได้ดั่งใจแน่นอน! คำเตือน: เหมาะกับคราบเปื้อนเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้าย หรือผ้าผสมโพลีเอสเตอร์เท่านั้น หากเป็นเสื้อผ้าขนสัตว์หรือผ้าไหม ส่งร้านซักรีดที่เขาเชี่ยวชาญจะดีกว่าค่า ทริคกำจัดคราบ: แป้งผสมรองพื้น ( Powder Foundation) ความน่าปวดหัวอันต่อมา ตีคู่มากับคราบรองพื้นเลย นั่นคือ "แป้งผสมรองพื้น" จะแบบอัดแข็งหรือฝุ่นก็ตาม เสี่ยงเปื้อนเป็นคราบบนแขนเสื้อ ปกเสื้อได้ง่ายมาก ขั้นแรกคืออย่าพยายามใช้มือปัดออกเด็ดขาด! มันเป็นเนื้อฝุ่น จะยิ่งฟุ้งกระจาย แผ่รัศมีคราบออกไปไกลกว่าเดิม อย่าหาทำ -_- ให้ใช้การ "สะบัด" ส่วนที่เปื้อน เพื่อเอาผงแป้งส่วนเกินออกจะดีกว่าค่ะ เมื่อเหลือแต่คราบอย่างเดียวแล้ว วิธีทำความสะอาดคือ แช่ผ้าในน้ำให้เปียกหมาดๆ ให้ใช้ "น้ำยาขจัดคราบ ( spot cleaner)" เทลงไปตรงคราบ แล้วนวดเบาๆ จนกว่าคราบนั้นจะหายไป ล้างออกด้วยน้ำสะอาด แล้วเอาเข้าเครื่องซักผ้าตามปกติได้เลย!
วิธีแก้ไขก็คือ ใช้น้ำแข็งก้อนๆ วางบนคราบ ความเย็นจะทำให้น้ำยาแห้งจนแข็งตัวเป็นแผ่น แล้วเธอค่อยขูดออกด้วยปลายแหลมๆ ของบัตรอะไรก็ได้ในกระเป๋าตังค์ หรือใช้แปรงสีฟันเก่าๆ ถูออก ทั้งนี้ขอเตือนว่า น้ำยาล้างเล็บส่วนใหญ่จะผสมอะซิโตน ( acetone) ซึ่งเป็นส่วนประกอบของสีบนผ้าบางชนิด ถ้าเธอใส่เสื้อที่มีสีหรือลายที่ผสมอะซิโตน เทน้ำยาล้างเล็บลงไป ลายหรือสีบนเสื้ออาจลบหายไปได้! ดังนั้นระวังด้วยนะคะซิส ทริคกำจัดคราบ: ลิปกลอส นอกจากลิปสติกแล้ว "คราบลิปกลอสบนเสื้อ" ก็เป็นปัญหาหนักอกหนักใจของสายแม่บ้านไม่แพ้กัน แต่ที่จริงก็พอมีวิธีทำความสะอาดอยู่ค่ะ!
กำจัดรอยลิปสติกออกจากพรม - wikiHow
- กำจัดรอยลิปสติกออกจากพรม - wikiHow
- พลังงาน น้ำ ข้อดี
- เสริมจมูก - รีวิวศัลยกรรมดั้งโด่ง - Powered by Discuz!
- กางเกง tactical 5.11
- Xiaomi himo c20 ราคา for sale
- Garmin ใช้ กับ iphone ได้ ไหม skykick ranger
- 5 วิธีใช้ลิปสติกแต่งหน้า ที่ไม่ได้เอาไว้แค่ทาปาก! - Ladyissue เว็บรีวิวเครื่องสำอาง ชุมชนผู้หญิง ฮาวทูแต่งหน้า อัพเดทแบรนด์เนม เทรนด์แฟชั่นจากดีไซเนอร์ชื่อดัง
- Gasohol 91 ราคา
- วิธี ลบ ลิปสติก dior
- Bad romance แปล cast
ลิปสติกที่คุณทามันไหลเยิ้มหรือจางหายไปหลังทาไปยังไม่ทันไรหรือเปล่า เป็นไปได้ว่าคุณอาจทาไม่ถูกต้อง อ่านบทความวิกิฮาวบทนี้เพื่อเคล็ดลับในการทาลิปสติกแล้วให้มันอยู่ได้นานขึ้น! 1 ขัดริมฝีปากของคุณ. นี่จะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและให้คุณมีริมฝีปากที่เรียบเนียนสำหรับเริ่มต้น มันยังช่วยทำให้ริมฝีปากรู้สึกนุ่มขึ้น คุณสามารถขัดริมฝีปากโดยการแปรงเบาๆ ด้วยแปรงสีฟันไม่กี่วินาที หรือถูด้วยผ้าขนหนูหมาดๆ คุณยังสามารถทำสครับริมฝีปากด้วยน้ำผึ้ง โดยใช้น้ำมันส่วนหนึ่งกับน้ำผึ้งส่วนหนึ่ง น้ำมันที่เหมาะจะใช้ในสครับริมฝีปากคือน้ำมันโจโจบา น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันมะพร้าว สำหรับคนที่ไม่ชอบน้ำมันนั้นใช้น้ำผึ้งเปล่าๆ ก็ยังได้ 2 ใช้ลิปบาล์มเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ริมฝีปาก. เปิดแท่งลิปบาล์มแล้วทาให้ทั่วทั้งริมฝีปากบนและล่าง ถ้าบาล์มนั้นมาเป็นกระปุก ก็ให้ใช้นิ้วแทน มันไม่เพียงแต่จะช่วยให้ริมฝีปากนุ่มและเนียนขึ้น แต่ยังจะช่วยให้ใช้ดินสอเขียนขอบปากกับลิปสติกทาได้สม่ำเสมอกว่าเดิม [1] ทาลิปบาล์มแล้วทิ้งไว้สักสองสามนาที คุณสามารถแต่งหน้าส่วนอื่นๆ ไปพลางๆ ระหว่างที่รอ [2] พยายามเลือกลิปบาล์มแบบขี้ผึ้งและไม่เป็นไขมัน จะทำให้ทิ้งคราบมันไว้บนริมฝีปากน้อยลง [3] 3 เช็ดลิปบาล์มออกถ้าจำเป็น.
นำไปแช่เย็นเพื่อให้ลิปสติกแข็งตัว เมื่อลิปเซ็ตตัวแล้วก็สามารถนำไปใช้ได้เลยค่ะ #2 สีจากอายแชโดว์ หรือ ลิปสติกแท่งเก่า วิธีต่อมาเป็นการใช้สีจากอายแชโดว์ที่เราทาตานั่นเอง โดยเนื้อของอายแชโดว์จะมีหลายประเภททั้งแบบแมตต์ กลิตเตอร์ ชิมเมอร์ ฉะนั้น ให้เพื่อน ๆ เลือกเนื้อที่ตัวเองอยากได้มาทำเป้นลิปสติกค่ะ แต่แนะนำให้ใช้เนื้อแมตตืและเนื้อชิมเมอร์จะดีที่สุด และอีกวิธีคือใช้ลิปสติกแท่งเก่งค่ะ เหมาะมากกับคนที่ต้องผสมสีลิปเพื่อให้ตรงความต้องการ จับมาผสมเข้าด้วยกันไปเลยค่ะ ประหยัดเวลาทาลิปหลายเลเยอร์เลย ส่วนผสม 1. อายแชโดว์แบบฝุ่นสีประมาณ 1 ช้อนชา (5 มล. ) ดูส่วนผสมของอายแชโดว์ด้วยนะคะ หลีกเลี่ยงอายแชโดว์ที่มีสารอัลตร้ามารีน (ultramarines) เฟอร์ริกเฟอร์โรไซยาไนด์ (ferric ferrocyanide) และโครเมี่ยมออกไซด์ (chromium oxides) อย่าใช้โดยเด็ดขาด ควรเลือกใช้อายแชโดว์ที่มีส่วนผสมของไอเอิร์นออกไซด์ (iron oxides) ที่ปลอดภัยเมื่อเข้าสู่ร่างกาย หรือ เลือกลิปสติกแบบแท่งสีที่เราต้องการค่ะ 2. ปิโตรเลียมเจลลี่ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล. ) 3. ภาชนะบรรจุลิปสติก วิธีการทำ 1. นำผงอายแชโดว์ หรือ ลิปสติกแท่งเก่า และปิโตรเลียมเจลใส่ลงไปในถ้วยเล็ก ๆ แล้วนำไปละลายในไมโครเวฟจนส่วนผสมละลาย 2.
ตรวจสอบว่าน้ำยาล้างเล็บชนิดนั้นใช่อะซิโตนบริสุทธิ์หรือเปล่า เพราะบางทีส่วนผสมอื่นๆ อาจเกิดผลที่คุณคาดไม่ถึงกับพรมของคุณได้ ขณะที่คุณไม่อยากให้อะซิโตนปริมาณเล็กน้อยสร้างความเสียหายกับผิวของคุณ หรือไม่อยากจะสูดดมกลิ่นที่ระเหยขึ้นมาเข้าไป ให้ไปกำจัดในที่ที่ระบายอากาศและเก็บอะซิโตนไว้ให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยงของคุณ [8] คุณอาจหยดอะซิโตนโดยตรงลงไปบนคราบเปื้อน และพักทิ้งไว้ 5 นาทีก่อนที่จะซับออกก็ได้ [9] โดยให้ลองหยดที่มุมที่ไม่เป็นที่สังเกตบนพรมก่อน เพื่อที่จะตรวจสอบดูความเสียหายหรือสีที่เปลี่ยนไปของพรม ใช้น้ำส้มสายชูชนิดใส 1 ลองใช้น้ำส้มสายชูแบบใส. น้ำส้มสายชูมีส่วนผสมของกรดอะซิติกในปริมาณเล็กน้อย ที่จะส่งผลในการชะล้างไขมันออกไปได้ โดยให้ใช้แค่น้ำส้มสายชูแบบใสเท่านั้น ห้ามใช้แบบหมักหรือแบบที่หมักจากแอปเปิลเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นคุณอาจได้คราบเพิ่มมาก็เป็นได้ ใช้สเปรย์ฉีดผม 1 ใช้สเปรย์ฉีดผมหากแอลกอฮอล์ล้างแผลไม่ได้ผล. หนึ่งในส่วนประกอบสำคัญของสเปรย์ฉีดผมก็คือแอลกอฮอล์นั่นเอง แต่ผลิตภัณฑ์บางอย่างที่มากมายก็ไม่ได้มีไว้เพื่อทำความสะอาด ส่วนประกอบบางอย่างจึงอาจส่งผลที่คาดเดาไม่ได้ขึ้นมาก็ได้ ถ้าวิธีอื่นใช้ไม่ได้ผลแล้วจริงๆ และคุณก็ไม่มีแอลกอฮอล์ล้างแผลด้วย ก็ให้ฉีดสเปรย์ฉีดผมในปริมาณเล็กน้อยลงบนคราบเปื้อนแล้วทิ้งไว้ประมาณ 10 ถึง 15 นาที จากนั้นเช็ดบริเวณนั้นด้วยผ้าเปียกอุ่นๆ ใช้น้ำยาเช็ดกระจก 1 ตรวจสอบดูการเปลี่ยนสีที่บริเวณไม่สะดุดตาของพรม.